top of page

โครงการ DEMOATIVE

ผู้ออกแบบ : นางสาววิชุพร นิลเป้า
นางสาวชนันรัตน์ เต็งยงค์
นางสาวกุลจิรา บุตรศรี
นางสาวสกาวรัตน์ สุวรรณประทีป

เมืองและชุมชนในปัจจุบันมีความเป็นสาธารณะที่ใช้งานจริงไม่ได้ เนื่องจากการออกแบบพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้งานได้ และด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้อต่อการใช้งาน จึงเริ่มต้นการคิดวิเคราะห์พื้นที่สาธารณะเพื่อการออกแบบให้มีการใช้งานได้จริง เพื่อส่งผลกระทบไปถึงเมืองที่ดีและชุมชนที่ดีต่อไปในอนาคต โดยวิเคราะห์คนหนึ่งคน ด้วยคนหนึ่งคนมีระยะความสัมพันธ์ในการเข้าแตกต่างกัน แบ่งเป็น 2 ระยะคือ มีระยะที่เป็นระยะของพื้นที่ส่วนตัว และระยะของพื้นที่ที่คนอื่นสามารถเข้ามาได้หรือระยะที่เป็นสาธารณะ ซึ่งเมื่อระยะสาธารณะของแต่คละคนเข้าใกล้กันจนกลืนเป็นการทับซ้อนกัน ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน กลายเป็นพื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน (Sharing Space) พื้นที่ระหว่างของการใข้พื้นที่ร่วมกันนี้ มีการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนที่แตกต่างกันไปเพื่อให้สามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้ พื้นที่ระหว่างเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการปฏิสัมพันธ์ จึงใช้พื้นที่ระหว่างนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงชั่วขณะมาศึกษาและตีความได้ว่า ในพืนที่ระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นเมื่อเกิดการรวมกลุ่มหรือการรวมตัวขนาดใหญ่มักก่อให้เกิดผลกระทบหรือแรงสั่นสะเทือนทางสังคมได้
กล่าวคือสามารถชี้นำสังคมไปในทางที่ดีขึ้นหรือเลวลงก็ได้ จากการศึกษาพื้นที่ที่ส่งผลกระทบทางสังคมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันพบว่า ในยุคของกรีกมีการใช้วิหารพาร์เธนอนเพื่อการรวมตัวเนื่องจากเป็นพื้นที่ของความศรัทธาในเทพเจ้า ผู้คนจึงรวมตัวและพูดคุยกันที่วิหาร ต่อมาในยุคของโรมันก็ใช้บาซิลิกาในการรวมตัว เรียกร้องและตัดสินประเด็นต่างๆ ในสังคม พอถึงยุคที่ศาสนาก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่ในโลกจึงใช้ะื้นที่โบสถ์ในการรวมตัวและประท้วงเรื่องต่างๆ ในยุคสมัยนั้น ในยุคที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันมากที่สุดก็เริ่มใช้มหาวิทยาลัยในเรียกร้องสิ่งต่างๆ ที่เป็นที่พิพาททางสังคม จึงตั้งคำถามถึงปัจจุบันเกี่ยวกับพื้นที่ของการเรียกร้อง การประท้วงต่างๆ ด้วยการวิเคราะห์พื้นที่ที่มีการเรียกร้องทางสังคม และพื้นที่ที่มีความสามารถชี้นำสังคมไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง จึงได้พื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้ ด้วยการออกแบบพื้นที่จากระยะของความสัมพันธ์ดังกล่าว พื้นที่ที่ได้จากการออกแบบจึงมีลักษณะเป็นวงกลมที่มีรัศมีที่ไม่เท่ากันซ้อนทับกันไปมา เพื่อการจัดการพื้นที่ที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันในการใช้พื้นที่ร่วมกัน มีการแบ่งพื้นที่การใช้สอยตามระยะความสัมพันธ์ของการปฎิสัมพันธ์ของผู้คน โดยได้พื้นที่ทั้งหมด 4 พื้นที่ คือ พื้นที่สำหรับนั่งหรืออยู่คนเดียวพื้นที่สำหรับการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พื้นที่สำหรับการศึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และพื้นที่สุดท้ายคือพื้นที่สำหรับการประชุมในประเด็นต่างๆ ทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือประเด็นอื่นๆ ซึ่งสามารถถกเกียงได้ในพื้นที่เหล่านี้








bottom of page